ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2553 อุตสาหกรรมสิ่งทอของไทยยังสามารถขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น จนทำให้ภาพรวมการส่งออกสิ่งทอในปี 2553 คาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12 หรือมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกขยายตัวนั้น นอกจากจะได้รับอานิสงส์จากการที่ประเทศคู่ค้าหันมานำเข้ามากขึ้นแล้ว ผลของการเปิด FTA ในกรอบต่างๆ ทำให้ผู้ส่งออกสิ่งทอของไทยได้รับอานิสงส์จากการขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยพิจารณาได้จากมูลค่าการส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2553 ที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกของไทยยังต้องพึงระวังกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่ อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญการแข่งขันกับคู่แข่งที่สำคัญโดยเฉพาะจีนและอาเซียน ซึ่งถือเป็นประเทศส่งออกสิ่งทอรายสำคัญๆ ของโลก รวมถึงการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานของประเทศผู้นำเข้าสิ่งทอรายใหญ่ๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น หรือแม้แต่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการขยายตัวของภาคส่งออกเป็นอย่างมาก
ดังนั้น จากปัญหาดังกล่าว ไทยควรวางแนวทางการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น การปรับตัวด้านการผลิต ให้มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และการปรับตัวด้านการตลาด โดย เฉพาะการขยายตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพ เช่น อาเซียน หรือตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มที่สำคัญของโลก และคาดว่า ในอนาคตจะกลายเป็นตลาดใหญ่ที่มีความสำคัญสำหรับไทย
Good source.
ตอบลบNext time, find longer article.
...Do the SWOT...